5 สิ่งที่พลาดไม่ได้ เล่นเกม RoV ให้เป็นผู้ชนะในสมรภูมิ RoV
1. เข้าใจหน้าที่และเลือกฮีโร่ให้สมดุลกับทีม
ชัยชนะไม่ได้ขึ้นอยู่กับฮีโร่ตัวเดียว แต่คือการทำงานร่วมกันของทั้งทีม การเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมและสมดุลตามตำแหน่ง (Role) จึงเป็นก้าวแรกสู่ชัยชนะ ทีมที่ดีควรประกอบด้วย
- แทงค์ (Tank): ตัวชน เปิดไฟต์ และรับดาเมจแทนเพื่อนร่วมทีม
- ไฟท์เตอร์ / แอสซาซิน (Fighter / Assassin): ตัวสร้างความเสียหายหลักในระยะประชิด หรือตัวล้วงแนวหลังของศัตรู
- เมจ (Mage): ตัวสร้างความเสียหายเวทจากระยะไกล และมักมีความสามารถในการควบคุม (Crowd Control)
- แครี่ (Carry): ตัวสร้างความเสียหายกายภาพอย่างต่อเนื่องในระยะไกล และเป็นหัวใจสำคัญในช่วงท้ายเกม
- ซัพพอร์ต (Support): ตัวช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม อาจเป็นการฮีล, บัฟ หรือขัดขวางศัตรู
สิ่งที่ห้ามพลาด
- อย่าเลือกฮีโร่ซ้ำตำแหน่งหรือเลือกแต่ตัวที่ตัวเองชอบโดยไม่ดูองค์ประกอบของทีม การสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมในระหว่างการเลือกตัว (Draft) คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
2. มอง Mini Map ตลอดเวลา คือหัวใจของการอ่านเกม
“Mini Map” หรือแผนที่ย่อที่มุมจอ คือเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการเอาชีวิตรอดและสร้างความได้เปรียบ การมองแผนที่ย่ออย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณ
- เห็นตำแหน่งศัตรู: รู้ว่าศัตรูอยู่ตรงไหน กำลังจะไปดักโจมตี (Gank) เลนใด หรือกำลังรวมตัวกันเพื่อโจมตี objective สำคัญ
- ตัดสินใจได้ดีขึ้น: รู้ว่าเวลาไหนควรดันเลน, เวลาไหนควรถอย หรือเวลาไหนควรไปช่วยเพื่อน
- ป้องกันการถูกลอบโจมตี: การหายไปของศัตรูจาก Mini Map เป็นสัญญาณเตือนชั้นดีว่าอาจมีอันตรายกำลังมาเยือน
- สิ่งที่ห้ามพลาด: การตายโดยไม่จำเป็นส่วนใหญ่มักเกิดจากการไม่มองแผนที่ย่อ ฝึกให้เป็นนิสัยที่จะเหลือบมองทุกๆ 3-5 วินาที แล้วคุณจะพบว่าตัวเองตายยากขึ้นและตัดสินใจได้คมขึ้น

3. “ป้อม” สำคัญกว่า “Kill”
ผู้เล่นหลายคนมักจะหมกมุ่นกับการไล่ฆ่าศัตรูเพื่อสะสมคะแนน Kill แต่ต้องจำไว้เสมอว่า “RoV เป็นเกมตีป้อม” ทีมที่ทำลายฐานหลักของศัตรูได้ก่อนคือผู้ชนะ ต่อให้คะแนน Kill ของทีมคุณจะนำห่างแค่ไหน แต่หากป้อมของคุณถูกทำลายทั้งหมด คุณก็คือผู้แพ้
สิ่งที่ห้ามพลาด
- จัดการครีป (Creep): ดันครีปเข้าสู่ป้อมศัตรูเสมอเพื่อสร้างความกดดันและเปิดโอกาสให้ทีมทำลายป้อมได้ง่ายขึ้น
- ให้ความสำคัญกับ Objective: เมื่อมีโอกาส ให้รวมตัวกับเพื่อนเพื่อทำลายป้อม, มังกร (Abyssal Dragon) และดาร์คสเลเยอร์ (Dark Slayer) ซึ่งจะมอบบัฟและสร้างความได้เปรียบมหาศาลให้กับทีม
- อย่าไล่ฆ่าจนลืมหน้าที่: การไล่ตามศัตรูที่เลือดน้อยเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่มีข้อมูลอาจเป็นการนำตัวเองและทีมไปสู่หายนะได้
4. รู้จักออกไอเทมตามสถานการณ์
ระบบไอเทมใน RoV มีความหลากหลายและส่งผลอย่างมากต่อความแข็งแกร่งของฮีโร่ การออกไอเทมตาม “เซ็ตแนะนำ” ที่เกมจัดไว้ให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ผู้เล่นที่เก่งจะสามารถปรับเปลี่ยนการออกไอเทมให้เข้ากับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้
สิ่งที่ห้ามพลาด
- วิเคราะห์ทีมตรงข้าม: หากศัตรูมีตัวสร้างความเสียหายเวทสูง ก็ควรออกไอเทมป้องกันเวท หรือหากเจอฮีโร่ที่มีสกิลฟื้นฟูพลังชีวิตสูง ก็ควรออกไอเทมลดการฮีล
- ปรับตามรูปเกม: หากทีมกำลังได้เปรียบ อาจจะเลือกออกไอเทมดาเมจเพื่อรีบปิดเกม แต่หากกำลังเสียเปรียบ การออกไอเทมป้องกันก่อนอาจช่วยให้ยืนระยะในการต่อสู้ได้ดีขึ้น
5. การสื่อสารและการเล่นเป็นทีม
RoV คือเกมที่ต้องเล่นเป็นทีม 5 คน ต่อให้คุณมีฝีมือส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะผู้เล่น 5 คนที่สื่อสารและทำงานร่วมกันได้ดี การใช้สัญญาณเตือนในเกม (Ping), การพิมพ์ข้อความสั้นๆ เพื่อบอกแผน หรือการใช้เสียง (Voice Chat) จะช่วยให้ทีมเข้าใจตรงกันและเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
สิ่งที่ห้ามพลาด
- แจ้งข้อมูลสำคัญ: บอกเพื่อนร่วมทีมเมื่อศัตรูหายไปจากเลน, เตือนเมื่อเจอศัตรูดักซุ่มอยู่ หรือนัดแนะเพื่อรวมตัวโจมตี
- อย่าเล่นคนเดียว: หลีกเลี่ยงการเดินเข้าไปในพื้นที่มืดตามลำพังโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่การตายเพียงคนเดียวอาจหมายถึงการพ่ายแพ้ทั้งเกม
- ไม่ทะเลาะกันเอง: การตำหนิเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น รักษาน้ำใจและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายร่วมกันคือชัยชนะของทีม