เกม PUBG MOBILE เกมยิงแนว Battle Royale บนมือถือที่ครองใจผู้เล่นทั่วโลก อาจดูเป็นเกมที่แตกต่างจากแนว MOBA (Multiplayer Online Battle Arena) อย่างสิ้นเชิง แต่ลึกลงไปในรายละเอียดแล้ว เกมยิงเอาชีวิตรอดเกมนี้กลับมีองค์ประกอบหลายอย่างที่โดนใจคอเกม MOBA อย่างไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่การวางแผนที่ซับซ้อน, การทำงานเป็นทีมที่ต้องสื่อสารกันตลอดเวลา, ไปจนถึงการใช้ทักษะเฉพาะตัวเพื่อชิงความได้เปรียบ ทำให้ PUBG MOBILE เป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่ท้าทายและอาจทำให้คุณติดใจได้ไม่ยาก
หัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่าง PUBG MOBILE และเกมแนว MOBA คือ “กลยุทธ์” และ “ทีมเวิร์ค” แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะต่างกัน โดย MOBA จะเน้นการต่อสู้ในแผนที่ที่มีเลนชัดเจนเพื่อทำลายฐานทัพของฝ่ายตรงข้าม ส่วน PUBG MOBILE คือการเอาชีวิตรอดเป็นคนสุดท้ายในสนามรบที่กว้างใหญ่ แต่ทั้งสองเกมต่างก็ต้องการการวางแผนที่เฉียบคมและการประสานงานในทีมที่เป็นเลิศ หากท่านใดสนใจอยากศึกษารายละเอียดของเกมเพิ่มเติม ติดตามไปพร้อมกันกับเว็บเติมเกม FirstUp ได้เลย
เกม PUBG MOBILE คืออะไร มาทำความรู้จักให้มากขึ้น
จากเลนสู่สมรภูมิ: แก่นแท้แห่งกลยุทธ์ที่เหมือนกัน
สำหรับผู้เล่น MOBA ที่คุ้นเคยกับการ “คุมเลน” และ “ฟาร์ม” ในช่วงต้นเกมเพื่อสร้างความได้เปรียบ ใน PUBG MOBILE ก็มีแนวคิดที่คล้ายกันในช่วงแรกของการโดดร่มลงสู่สมรภูมิ ผู้เล่นจะต้องเลือกจุดลง (Landing Zone) ที่เหมาะสม เปรียบเสมือนการเลือกเลนในเกม MOBA การตัดสินใจว่าจะลงในพื้นที่ที่มีไอเท็มดีๆ แต่เสี่ยงต่อการปะทะกับผู้เล่นอื่น หรือจะเลือกฟาร์มอย่างปลอดภัยในพื้นที่ห่างไกล ล้วนเป็นกลยุทธ์ที่ต้องอาศัยการตัดสินใจร่วมกันของทีม
นอกจากนี้ การจัดการทรัพยากรก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่สามารถนำมาปรับใช้ได้โดยตรง ใน MOBA ผู้เล่นจะต้องบริหารจัดการมานาและคูลดาวน์ของสกิล แต่ใน PUBG MOBILE คุณจะต้องจัดการกับกระสุน, ยา, และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่มีจำกัด การแบ่งปันทรัพยากรในทีมเพื่อให้ทุกคนพร้อมรบที่สุด ก็ไม่ต่างจากการที่ซัพพอร์ตคอยดูแลเพื่อนร่วมทีมใน MOBA
Teamfight ในสมรภูมิเดือด: เมื่อการสื่อสารคือชี้ขาด
การปะทะกันเป็นทีม หรือ “Teamfight” ถือเป็นจุดไคลแม็กซ์ของทั้งสองเกม ใน MOBA จังหวะการเข้าทำ, การใช้สกิลคอมโบ, และการปกป้องเพื่อนร่วมทีมคือหัวใจสำคัญสู่ชัยชนะ เช่นเดียวกันกับการปะทะใน PUBG MOBILE ที่ต้องอาศัยการสื่อสารที่ดี, การบอกตำแหน่งศัตรู, การเข้าโจมตีพร้อมกัน และการช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกยิงล้ม ทั้งหมดนี้คือทักษะที่ผู้เล่น MOBA คุ้นเคยเป็นอย่างดี
ตำแหน่งและบทบาทในทีม (Team Roles) ก็มีความคล้ายคลึงกัน แม้ใน PUBG MOBILE จะไม่มีการกำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนเหมือน MOBA แต่โดยธรรมชาติแล้ว ผู้เล่นมักจะแบ่งหน้าที่กันเองในทีม ไม่ว่าจะเป็น
- Entry Fragger: เปรียบได้กับตำแหน่ง “Fighter” หรือ “Assassin” ใน MOBA ที่จะเป็นคนเปิดการปะทะ มีความสามารถในการยิงที่เฉียบคมและกล้าเล่นเสี่ยง
- Support/Scout: ทำหน้าที่คล้าย “Support” หรือ “Jungler” ที่คอยสอดส่องพื้นที่, หาข้อมูลตำแหน่งศัตรู, และคอยสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมจากระยะไกลด้วยปืนสไนเปอร์
- In-game Leader (IGL): คือ “กัปตันทีม” ที่จะคอยสั่งการและวางแผนการเคลื่อนที่ คล้ายกับตำแหน่ง “Mid Laner” หรือ “Support” ที่มักจะเป็นคนคุมเกมใน MOBA
- Flex: ผู้เล่นที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นไปตามสถานการณ์ของทีมได้
ทักษะที่ถ่ายทอดได้: จาก MOBA สู่การเป็นผู้รอดคนสุดท้าย
นอกเหนือจากที่กล่าวมา ยังมีทักษะอีกหลายอย่างที่ผู้เล่น MOBA สามารถนำมาปรับใช้ใน PUBG MOBILE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Map Awareness: การอ่านแผนที่และคาดเดาตำแหน่งของศัตรูเป็นทักษะสำคัญใน MOBA และใน PUBG MOBILE ก็เช่นกัน การเข้าใจว่าวงบีบไปทางไหนและศัตรูน่าจะดักซุ่มอยู่ตรงไหน คือกุญแจสู่การเอาชีวิตรอด
- Positioning: การยืนตำแหน่งในการต่อสู้เพื่อสร้างความได้เปรียบสูงสุดและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด เป็นสิ่งที่ผู้เล่น MOBA โดยเฉพาะตำแหน่ง “Marksman” ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งทักษะนี้สามารถนำมาใช้ในการหาที่กำบังและมุมยิงที่ดีใน PUBG MOBILE ได้
- Decision Making: การตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำภายใต้ความกดดันเป็นสิ่งที่ผู้เล่น MOBA ต้องเจออยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเข้าปะทะ, การถอย, หรือการเลือกเป้าหมาย ซึ่งใน PUBG MOBILE ก็ต้องการการตัดสินใจที่เด็ดขาดไม่แพ้กัน

