5 ตัวละคร ROV สายแทงค์ โจมตีไกลสะใจ คุมโซนเยี่ยม
1. Maloch (มาล็อก) - ราชันปีศาจผู้ฟาดฟันทุกสรรพสิ่ง

Maloch ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับตำแหน่งแทงค์ที่ยืนเลนได้อย่างแข็งแกร่งและสร้างความเสียหายได้มหาศาล ความโดดเด่นของเขาอยู่ที่สกิลติดตัว Soul Eater ที่ทำให้การโจมตีปกติสร้างความเสียหายจริง (True Damage) เมื่ออยู่ในสถานะ Cleave ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสังหารฮีโร่สายแทงค์ด้วยกันเองหรือไฟเตอร์เลือดหนาได้อย่างง่ายดาย
- จุดเด่นด้านการป้องกัน: สกิล Cleave ไม่เพียงแต่สร้างดาเมจ แต่ยังฟื้นฟูพลังชีวิตตามจำนวนเป้าหมายที่โจมตีโดน ทำให้เขาสามารถยืนหยัดในวงไฟต์ได้อย่างยาวนาน
- ศักยภาพในการคิล: อัลติเมทสกิล Shock เป็นเครื่องมือเปิดไฟต์ชั้นยอดที่ทั้งสร้างความเสียหายและทำให้ศัตรูลอยขึ้นสู่กลางอากาศ เปิดโอกาสให้ Maloch เข้าไปฟาดฟันด้วยความเสียหายจริงได้อย่างต่อเนื่อง หากออกไอเท็มเสริมพลังโจมตีเพียงเล็กน้อย ก็สามารถไล่เก็บแครี่หรือเมจของฝ่ายตรงข้ามได้ไม่ยาก
2. Skud (สกัด) - หมัดเหล็กทะลวงเกราะ

Skud เป็นฮีโร่สายแทงค์กึ่งไฟเตอร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการ “One Shot Combo” ใส่เหล่าตัวบางของศัตรู ด้วยพลังหมัดที่ชาร์จจากสกิล Power Glove ซึ่งเสริมให้การโจมตีปกติครั้งต่อไปรุนแรงขึ้นอย่างมหาศาล พร้อมทั้งทำให้เป้าหมายติดสตั๊นและลดความเร็วเคลื่อนที่
- จุดเด่นด้านการป้องกัน: แม้จะเน้นไปที่การสร้างความเสียหาย แต่ Skud ก็มีความอึดพอตัวจากเกราะที่ได้รับจากสกิล Fury Strikes ซึ่งช่วยลดความเสียหายที่ได้รับลงชั่วขณะหนึ่ง
- ศักยภาพในการคิล: การคอมโบสกิลโดยเริ่มจาก Charge พุ่งเข้าชน ตามด้วย Power Glove และปิดท้ายด้วยอัลติเมทสกิล Wild Beast Fury ที่ทุบพื้นสร้างความเสียหายวงกว้างและสโลว์ศัตรูอย่างรุนแรง เป็นชุดคอมโบที่สามารถลบแครี่หรือเมจออกจากไฟต์ได้ในพริบตา
3. Riktor (ริกเตอร์) - นักรบผู้ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์

Riktor เป็นฮีโร่ที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ได้ตามสภาพแวดล้อม (พงหญ้า, แม่น้ำ, พื้นปกติ) ทำให้เขารับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ในฐานะแทงค์ เขาสามารถสร้างดาเมจและก่อกวนศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง
- จุดเด่นด้านการป้องกัน: เมื่อยืนบนพื้นปกติ สกิลติดตัว Battle Instinct จะช่วยลดความเสียหายที่ได้รับ ทำให้เขาสามารถยืนชนรับดาเมจได้ดีในระดับหนึ่ง ประกอบกับสกิล Retaliate / Mark of the Hunter ที่สามารถปัดป้องความเสียหายและสถานะได้
- ศักยภาพในการคิล: ความสามารถในการคิลของ Richter มาจากคอมโบสกิลที่หลากหลายและรุนแรง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในพงหญ้าที่สกิล Jungle Strike จะทำให้ศัตรูลอยขึ้น หรือเมื่ออยู่ในแม่น้ำที่จะเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ ทำให้การไล่ล่าและสังหารเป้าหมายทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ การออกไอเท็มดาเมจผสมกับไอเท็มป้องกันจะทำให้ Richter กลายเป็นฝันร้ายของแนวหลังศัตรู
4. Omen (โอเม็น) - จ้าวแห่งการดวลเดี่ยว

Omen เป็นฮีโร่ที่โดดเด่นในเรื่องการล็อกเป้าและสังหารศัตรูแบบตัวต่อตัว ด้วยอัลติเมทสกิล Death’s Embrace ที่สามารถกักขังเป้าหมายไว้ในแดนสนธยาและลดความเสียหายที่พวกเขาทำได้ ทำให้ Omen ได้เปรียบอย่างมหาศาลในการดวล
- จุดเด่นด้านการป้องกัน: สกิล Untouchable ทำให้ Omen เข้าสู่สถานะลดความเสียหายที่ได้รับและเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ ทำให้เขาสามารถทนรับดาเมจหนัก ๆ ได้ชั่วขณะเพื่อรอจังหวะสวนกลับ
- ศักยภาพในการคิล: หัวใจของการคิลอยู่ที่สกิลติดตัว Thirst ที่ทำให้ Omen โจมตีเร็วขึ้นและสร้างความเสียหายจริงทุกการโจมตีครั้งที่ 3 เมื่อคอมโบกับอัลติเมทที่ล็อกเป้าไว้แล้ว การฟาดด้วยความเร็วสูงพร้อมความเสียหายจริงจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสังหารเป้าหมายที่ถูกขังไว้
5. Thane (เธน) - ราชันผู้พิทักษ์และพิฆาต

Thane เป็นแทงค์สายคลาสสิกที่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถสร้างความเสียหายได้มากขึ้น โดยเฉพาะอัลติเมทสกิลของเขาที่ยังคงเป็นหนึ่งในสกิลประหารที่รุนแรงที่สุดในเกมสำหรับฮีโร่สายแทงค์
- จุดเด่นด้านการป้องกัน: สกิลติดตัว Royal Power จะฟื้นฟูพลังชีวิตอย่างมหาศาลเมื่อ HP ต่ำกว่า 30% ทำให้เขายืนหยัดในสถานการณ์คับขันได้ดีเยี่ยม ประกอบกับสกิล Avalon’s Fury ที่สามารถผลักและสตั๊นศัตรูเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี
- ศักยภาพในการคิล: อัลติเมทสกิล King’s Justice คือเครื่องมือสังหารชั้นยอด สกิลนี้จะสร้างความเสียหายจริงเป็นวงกว้าง โดยความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามพลังชีวิตของศัตรูที่หายไป ยิ่งศัตรูเลือดน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งโดนดาเมจแรงขึ้นเท่านั้น ทำให้ Thane สามารถปิดฉากศัตรูที่บาดเจ็บได้อย่างเฉียบขาด