เล่นเกม ROV ให้สนุกมากขึ้น แค่รู้เทคนิคนี้
1. การเลือกฮีโร่และบทบาท (Role Selection)
เข้าใจบทบาทของแต่ละตำแหน่ง
- Dark Slayer Lane (DSL): มักจะเป็น Fighter หรือ Warrior ที่แข็งแกร่งในช่วงต้นเกม และสามารถแยกดันป้อม หรือเป็นตัวเปิดไฟต์ได้ดี
- Abyssal Dragon Lane (ADL): มักจะเป็น Marksman (แครี่) และ Support (ซัพพอร์ต) ที่เน้นการฟาร์มเพื่อเติบโตและสร้างความเสียหายในเลทเกม
- Mid Lane: มักจะเป็น Mage (เมจ) ที่มีสกิลเคลียร์ครีปเร็ว และสามารถโรมมิ่งไปช่วยเลนอื่นได้ดี
- Jungle: มักจะเป็น Assassin หรือ Fighter ที่มีสกิลฟาร์มเร็ว และมีความสามารถในการแก๊งค์ (Gank) เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับเพื่อนร่วมทีม
- Support: เน้นการปกป้อง Carry, คุมวิสัยทัศน์ของแผนที่ และเป็นตัวเปิด/รับดาเมจในไฟต์
Pick & Ban Phase (การเลือกและแบนฮีโร่)
- แบนฮีโร่เมต้าที่แข็งแกร่ง: ดูว่าฮีโร่ตัวไหนกำลัง OP (Over Powered) ในแพทช์ปัจจุบัน แล้วแบนออกไปเพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้ใช้
- เลือกฮีโร่ที่เข้ากับทีม
- สมดุลดาเมจ: ควรมีทั้ง Physical Damage และ Magic Damage ในทีม เพื่อไม่ให้ศัตรูออกเกราะชนิดเดียวมาแก้ทางได้ง่าย
- การควบคุม (CC): มีฮีโร่ที่มีสกิลสตั๊น, สโลว์, หรือยก เพื่อให้สามารถจับตัวศัตรูและเข้าทำได้ง่ายขึ้น
- หน้าที่ในไฟต์: ทีมควรมีตัวแทงค์/ตัวชน (Frontline), ตัวสร้างดาเมจหลัก (Damage Dealer), ตัวสนับสนุน (Support)
- คอมโบฮีโร่: บางฮีโร่มีความสามารถที่ส่งเสริมกันได้ดี เช่น Grakk ดึงมาให้ Ignis อัลติ หรือ Veres/Florentino ที่มีสกิล CC และสร้างดาเมจต่อเนื่อง
Mastery ฮีโร่: ฝึกฝนฮีโร่ที่คุณจะเล่นให้ชำนาญอย่างน้อย 2-3 ตัวในแต่ละตำแหน่ง เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
2. การฟาร์มและการจัดการเลน (Farming & Lane Management)
Last Hit (การสังหารครีปตัวสุดท้าย): สำคัญมากในการเก็บทองและเลเวล พยายามลาสฮิตครีปทุกตัวอย่างแม่นยำ
การดันเลน (Pushing Lane)
- ดันเพื่อเอาป้อม: เมื่อมีโอกาสและมั่นใจว่าไม่ถูกแก๊งค์ ให้ดันครีปเข้าป้อมศัตรูเพื่อสร้างดาเมจและกดดัน
- ดันเพื่อโรมมิ่ง: ดันครีปให้สุดเลน เพื่อให้มีเวลาไปช่วยเลนอื่นหรือไปแก๊งค์
- การ Freeze Lane: ในบางสถานการณ์ (เช่น เมื่อได้เปรียบมาก ๆ และต้องการกดดันศัตรูให้เสีย EXP/Gold) อาจจะปล่อยให้ครีปฝ่ายศัตรูเข้ามาใกล้ป้อมเราเล็กน้อย แล้วลาสฮิตโดยไม่ดันกลับ เพื่อไม่ให้ศัตรูสามารถฟาร์มได้ง่าย
การฟาร์มป่า (Jungle Farming)
- สำหรับ Jungler: บริหารเส้นทางฟาร์มให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ Gold/EXP มากที่สุด และออกไปแก๊งค์ได้ตามจังหวะ
- สำหรับเลนอื่น: เมื่อ Jungler ไม่อยู่ในพื้นที่ หรือในเลทเกมที่เคลียร์ครีปในเลนหมดแล้ว สามารถฟาร์มครีปป่าเพื่อเพิ่ม Gold/EXP ได้ แต่ต้องระวังไม่ไปแย่งฟาร์มของ Jungler โดยไม่จำเป็น
3. การควบคุมแผนที่และวิสัยทัศน์ (Map Control & Vision)
การดูมินิแมพ (Minimap Awareness)
- ดูตำแหน่งเพื่อนร่วมทีมและศัตรูตลอดเวลา เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของศัตรู
- สังเกตสัญญาณ “Missing” (หายไป) จากเพื่อนร่วมทีม และระวังการแก๊งค์
- ดูตำแหน่งของ Objectives สำคัญ (มังกร, Dark Slayer, Abyssal Dragon)
การวาง Ward (หรือสกิลเปิดวิสัยทัศน์)
- Support มีหน้าที่หลักในการวาง Ward เพื่อเปิดวิสัยทัศน์ในจุดสำคัญ เช่น ทางเข้าป่า, บริเวณ Dark Slayer/Abyssal Dragon
- ฮีโร่บางตัวมีสกิลที่สามารถเปิดวิสัยทัศน์ได้ (เช่น Slimz, Valhein) ใช้สกิลเหล่านี้เพื่อเช็คพุ่มไม้ก่อนเข้า หรือเพื่อหาตำแหน่งศัตรู
การควบคุม Objective (เป้าหมาย)
- Abyssal Dragon (มังกรเล็ก): มักจะถูกแย่งชิงในช่วงต้นเกมถึงกลางเกม การสังหารมังกรจะให้ Gold และ EXP แก่ทีม
- Dark Slayer (มังกรใหญ่): สำคัญมากในช่วงกลางเกมถึงเลทเกม การสังหาร Dark Slayer จะทำให้ทีมได้บัฟ Dark Slayer ที่ช่วยให้การดันป้อมและการไฟต์ได้เปรียบอย่างมหาศาล
- Spirit Sentinel (บัฟวิญญาณป่า): ให้บัฟที่เพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันในช่วงกลางเกม
- ป้อมปราการ (Towers/Turrets): เป้าหมายหลักของเกม การทำลายป้อมคือวิธีเดียวที่จะบุกเข้าไปในฐานศัตรูได้

4. การแก๊งค์และโรเทท (Ganking & Rotating)
แก๊งค์ (Gank): การรวมตัวกันของเพื่อนร่วมทีม 2-3 คนขึ้นไปเพื่อสร้างความได้เปรียบในเลนใดเลนหนึ่ง
- จังหวะที่เหมาะสม: ศัตรูดันลึก, ศัตรูเลือดน้อย, ศัตรูไม่มีสกิลหลบหนี
- การสื่อสาร: ปิง (Ping) ให้เพื่อนร่วมทีมรู้ว่าจะไปแก๊งค์
โรเทท (Rotate): การเคลื่อนที่จากเลนหนึ่งไปอีกเลนหนึ่ง เพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีม, ฟาร์ม, หรือไปทำ Objective
- Mid Lane: ควรโรเททไปช่วย DSL หรือ ADL บ่อยๆ
- Jungler: ควรโรเททไปแก๊งค์เลนที่กำลังเสียเปรียบ หรือเลนที่มีโอกาสคิล
5. การไฟต์ทีม (Team Fight)
การวางตำแหน่ง (Positioning)
- แทงค์/ไฟต์เตอร์: ยืนแนวหน้าเพื่อรับดาเมจและเปิดไฟต์
- แครี่/เมจ: ยืนแนวหลังเพื่อสร้างดาเมจ และระวังการถูกล้วง
- ซัพพอร์ต: ยืนใกล้แครี่ เพื่อปกป้องและคอยสนับสนุน
การเลือกเป้าหมาย (Target Priority):
- อันดับแรก: แครี่ (Marksman) และเมจ (Mage) ของศัตรู เพราะเป็นตัวสร้างดาเมจหลัก
- อันดับสอง: ตัว Assassin หรือ Jungler ที่พยายามเข้ามาล้วงตัวดาเมจของเรา
- อันดับสุดท้าย: แทงค์ (Tank) เพราะมีความถึกและฆ่ายาก
การใช้สกิลคอมโบ: ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมในการใช้สกิล เพื่อให้เกิดดาเมจสูงสุดและสามารถคุมศัตรูได้
การถอย (Disengage): หากไฟต์เสียเปรียบ ให้ถอยออกมาเพื่อไม่ให้ตายหมดทีม

6. การสื่อสาร (Communication)
ปิง (Ping): ใช้ปิงเพื่อบอกสถานการณ์ต่างๆ เช่น “Attack”, “Defend”, “Need Help”, “Enemy Missing”, “Danger”
แชท (Chat): ใช้แชทเพื่อวางแผนการเล่นที่ซับซ้อนขึ้น เช่น “รวม Dark Slayer”, “ดันกลาง”
ใจเย็นและให้กำลังใจ: หลีกเลี่ยงการตำหนิเพื่อนร่วมทีม เพราะจะทำให้บรรยากาศในทีมเสีย และส่งผลต่อฟอร์มการเล่น
7. การวิเคราะห์เกมและการเรียนรู้ (Game Analysis & Learning)
ดูรีเพลย์ (Replay): ดูรีเพลย์ของตัวเองเพื่อวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและปรับปรุง
ดูโปรเพลเยอร์: ศึกษาการเล่นของโปรเพลเยอร์ เพื่อเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์ใหม่ๆ
ติดตามแพทช์โน้ต: อ่านแพทช์โน้ต (Patch Notes) ทุกครั้งที่มีการอัปเดต เพื่อทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของฮีโร่และไอเทม
ฝึกฝนในโหมดต่างๆ
- ฝึกในโหมดฝึกซ้อม: ฝึกใช้สกิลคอมโบและจับจังหวะ
- เล่นในโหมดจัดอันดับ: นี่คือสนามประลองจริง ที่จะทำให้คุณได้พัฒนาฝีมือ
- เล่นกับเพื่อน: การเล่นเป็นทีมกับเพื่อนจะช่วยให้การสื่อสารและทีมเวิร์คดีขึ้น

เทคนิคเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญ
- บริหารมานา/พลังงาน: อย่าใช้สกิลเปลืองโดยไม่จำเป็น
- รู้ระยะโจมตี: รู้ระยะการโจมตีปกติและสกิลของฮีโร่ตัวเองและศัตรู
- การใช้พลังแฝง (Enchantment) และรูน (Arcana): จัดให้เหมาะสมกับฮีโร่และแนวทางการเล่น
- การซื้อไอเทม: ซื้อไอเทมตามสถานการณ์ ไม่ใช่แค่ตาม Guide เสมอไป หากศัตรูมีดาเมจเวทมาก ก็ออกเกราะเวทเพิ่ม หากศัตรูมีฮีลเยอะ ก็ออกไอเทมลดฮีล (Curse of Death/Tome of the Reaper)
- ไม่หัวร้อน: เล่นเกมอย่างสนุกสนานและใจเย็น การหัวร้อนจะทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นลดลง